วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ศิริพร อำไพพงษ์


                                                                                       ศิริพร อำไพพงษ์
  
                                           

ศิริพร อำไพพงษ์ นักร้องลูกทุ่งหมอลำ สังกัดแกรมมี่โกลด์ ฉายานักร้องลูกทุ่งหญิงเสียงอ้อนของคณะวงดนตรีพิณแคนแดนอิสาน มีชื่อเล่นว่า นาง ชื่อจริง ศิริมา อำเคน มีผลงานสร้างชื่อเช่น โบว์รักสีดำ' ปริญญาใจ

ประวัติ
ศิริพร อำไพพงษ์ ชื่อจริง ศิริมา อำเคน ชื่อเล่น นาง เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2507 ที่บ้านดอนกลอย ตำบลดอนกลอย อำเภอหนองหาน (ปัจจุบันแยกมาเป็นอำเภอพิบูลย์รักษ์) จังหวัดอุดรธานี มีพี่น้องทั้งหมด 10 คน ศิริพรเป็นคนที่ 7 ครอบครัวมีอาชีพทำนา และมีวงหมอลำด้วยโดยมีคุณพ่อเป็นหมอลำอยู่แล้ว และเป็นผู้สอนให้ศิริพรเป็นหมอลำ เมื่อปี พ.ศ. 2527 เธออยู่กับหมอลำคณะ สุเทพ ดาวดวงใหม่ และได้รู้จักกับ คุณนคร แดนสารคาม และคุณประยูร จันทร์สอน ได้พาไปออกทีวีช่อง 4 จ.ขอนแก่น และคุณดอย อินทนนท์ ได้เห็นแววจึงให้โอกาสอัดเสียงและได้รับการเปลี่ยนชื่อจาก ศิริมา เป็น ศิริพร

ศิริพรเป็นบุคคลที่ถูกยกย่องว่าเป็นศิลปินในดวงใจของใครหลายๆคน เพราะเธอมีความสามารถที่เหนือชั้นกว่าบุคคลธรรมดา เป็นที่นับถือของลูกๆชาวแฟนคลับทั่วประเทศ ด้วยแฟนคลับรักและศรัทธาในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง และคำว่า "แม่นาง" ที่ลูกๆใช้เรียกแทนใจเป็นคำที่สั้นๆ แต่มีความรัก ความผูกพันแอบแฝงอยู่ ค้วยความที่เธอมีนิสัยที่ดี ไม่หยิ่ง ไม่ถือตัว แฟนคลับขอกอดได้ ขอหอมแก้มได้ซึ่งเหตุนี้จึงทำให้เธอมีแฟนคลับทั่วบ้านทั่วเมื่อง

ผลงานเพลง
พ.ศ. 2527-2533 ค่ายกรุงไทย 5 ชุด: พบรักที่หัวลำโพง ,สาวภูพานลำพึง, น้องนกอกหัก, อดีตรักหนองหาน และทุ่งร้างนางคอย
พ.ศ. 2534-2542 ค่ายพีจีเอ็ม 32 ชุด: อาทิเช่น โบว์รักสีดำ ลำเพลินเชิญเต้น ไฟใกล้ฟาง ล้างจานในงานแต่ง ฝากซองกินดองแฟน ผ้าเช็ดหน้าลาแก้ม หัวอกแม่ฮ้างน้อย สาวคิงฮ้อน ฮักผัวเขา
พ.ศ. 2542-ปัจจุบัน ค่ายแกรมมี่โกลด์ โดยได้ครูเพลงคู่บุญอย่าง สลา คุณวุฒิ แต่งเพลงดังๆให้เช่นเคย
ผลงานเดี่ยว
พ.ศ. 2542 ลูกทุ่งบ้านดอน ชุดที่ 1 ปริญญาใจ
หมอลำบ้านดอน ชุดที่ 2 สู้เพื่อน้องได้ไหม
ลูกทุ่งบ้านดอน ชุดที่ 3 แรงใจรายวัน
ลูกทุ่งบ้านดอน ชุดที่ 4 เพื่อแม่แพ้บ่ได้
ลูกทุ่งบ้านดอน ชุดที่ 5 สองคนบนทางใจ
ชุดที่ 6 แพ้ใจคนดี
ชุดที่ 7 อกหักเพราะฮักอ้าย
ชุดที่ 8 กรุณาอย่าเผลอใจ
ลูกทุ่งกีตาร์หวาน ชุดที่ 1
ชุดที่ 9 ตัวจริงประจำใจ
ชุดที่ 10 ผู้แพ้ขอแค่เบอร์
ชุดพิเศษ เมือยามบ้าน ทั้งมันทั้งม่วน (โลโซโบว์รัก)
ลูกทุ่งกีตาร์หวาน ชุดที่ 2
ชุดพิเศษ เมือยามบ้าน ทั้งมันทั้งม่วน ภาค 2 (อยากมีบอดี้กอด)
ชุดที่ 11 ย่านบ่มีชาติหน้า
เมือยามบ้านปีที่ 3 ม่วนรวมมิตรฮิตซอดแจ้ง (ซำบายดีที่คานทอง)
(นักร้องรับเชิญ ดอกอ้อ ทุ่งทอง และ ก้านตอง ทุ่งเงิน)
ชุดที่ 12 แจ่วบองในกล่องคอมพ์
ชุดที่ 13 ขอทำเพื่ออ้าย






credit website : gmember.com; siamdara.com

ต่าย อรทัย


                                                              ต่าย อรทัย

                                              

ประวัติ ต่าย อรทัย
ชื่อในวงการ : ต่าย อรทัย 
ชื่อจริง :  น.ส. อรทัย ดาบคำ 
ชื่อเล่น : ต่าย 

วัน-เดือน-ปี เกิด : วันพฤหัสบดี ที่ 27 มีนาคม 2523 
รูปร่าง น้ำหนัก :  ประมาณ 47 ก.ก. , ส่วนสูง: ประมาณ 165 ซ.ม. 

ภูมิลำเนา : บ้านคุ้มแสนชะนี ตำบลพรสวรรค์ อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี 

อัลบั้มสร้างชื่อ : ดอกหญ้าในป่าปูน 



2.ขอใจกันหนาว


อยู่ในใจเสมอ ชุดพิเศษ


3.คนใกล้เมื่อไกลบ้าน


4.ส่งใจมาไกล้ชิด


5.มาจากดิน


6.คนในความคิด


7.ชุดพิเศษหมอลำดอกหญ้า


8.ฝันยังไกล ใจยังหนาว

9.ปลายก้อยของความฮัก


ข่าว เกี่ยวกับต่าย อรทัย
รายงานข่าวเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 50 เวลา 09.00 น. ที่ผ่านมาห้องพิจารณาคดีที่ 809 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายสลา คุณวุฒิ นักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดัง และ น.ส.อรทัย ดาบคำ (ต่าย อรทัย) นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังค่ายแกรมมี่โกลด์ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท นิวส์เจนเนอเรชั่น จำกัด เจ้าของหนังสือพิมพ์รายวัน ดาราเดลี่, สุวัฒน์ เชษฐโชติศักดิ์ กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท (ศาลยกฟ้องไปแล้วในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง), นายเกรียงศักดิ์ สกุลชัย หรือต้อย แอคเนอร์ กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท, นายสุพรรณ เสือหาญ ทนายความ (ศาลยกฟ้องไปแล้วในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง) และนายสุนทร นนทอ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์บันเทิงรายวัน ''ดาราเดลี่'' เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา และ พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2489 จากกรณีที่ นสพ.ดาราเดลี่ ตีพิมพ์ข้อความทำนองว่า โจทก์ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันฉันชู้สาว
โดยคำฟ้องสรุปความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย. 2549 จำเลยทั้งห้าได้ร่วมกันกระทำความผิด จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 กรรมการผู้มีอำนาจ ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ หนังสือพิมพ์บันเทิงรายวัน ปีที่ 1 ฉบับวันที่ 6 เมษายน 2549 โดยหนังสือดังกล่าวได้ตีพิมพ์รูปโจทก์ทั้งสองและข้อความโดยเจตนาใส่ความโจทก์ทั้งสองว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว โดยพาดหัวข่าวว่า ''ครูสลา ปิ๊ง ต่าย อรทัย สร้างตำนานครูรักศิษย์'' โดยเนื้อหาภายในข่าวมีการอ้างว่า ทั้งคู่อยู่กินด้วยกัน อยู่บ้านเดียวกันแบบเงียบๆ อีกทั้งยังอ้างถึงกระแสข่าวว่า ครูสลา ยอมควักเงิน 10 ล้าน เพื่อขอหย่าขาดกับภรรยาเก่า อันเป็นการใส่ความโจทก์ โดยน่าจะทำให้โจทก์ทั้งสองเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง โดยการโฆษณาด้วยเอกสาร โดยในชั้นไต่สวน ศาลได้พิพากษายกฟ้อง จำเลยที่ 2 และ 4 ซึ่งเป็นเพียงกรรมการบริษัท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาตามฟ้องแต่อย่างไร
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า ฟ้องโจทก์มีมูล รับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1, 3 และ 5 ส่วนจำเลยที่ 2 และ 4 ให้ยกฟ้อง อย่างไรก็ตาม โจทก์ที่ 1 เป็นนักแต่งเพลง ส่วนโจทก์ที่ 2 เป็นนักร้อง โดยจำเลยได้ลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ ทำนองว่าสมภารกินไก่วัด อาศัยอยู่ร่วมกันฉันชู้สาว โดยโจทก์ได้นำผู้จัดการส่วนตัวของทั้งโจทก์ที่ 1 และ 2 มาเบิกความว่า โจทก์ทั้ง 2 เป็นศิษย์กับอาจารย์ และโจทก์ที่ 1 ยังอยู่กินกับภรรยาและยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า ที่ลงไปในหนังสือพิมพ์ดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อีกทั้งยังทำให้โจทก์ที่ 1 ขาดจรรยาบรรณในความเป็นครูอาจารย์อีกด้วย ตามการนำสืบของโจทก์ จำเลยเห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยที่ 1 และ 3 ใส่ความโจทก์ และยังรับฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิดแม้ว่าจะมีนามปากกาของจำเลยที่ 3 ปรากฏอยู่บนหน้าคอลัมน์ แต่เป็นเพียงการโฆษณาเนื้อหาข่าวที่หมิ่นประมาทก็ไม่ใช่จำเลยที่ 3 เป็นผู้เขียน จึงยกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 3 ส่วนจำเลยที่ 5 เป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ซึ่งจำเลยอ้างว่าเป็นพนักงานนั้น เป็นเพียงข้ออ้างที่ขาดความรับผิดชอบ
เนื่องจากตาม พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484  คำว่าบรรณาธิการ หมายถึง ผู้รับผิดชอบในการจัดทำ ตรวจ แก้ คัดเลือก หรือควบคุมบทประพันธ์ หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์ ดังนั้น จำเลยที่ 5 ต้องรับผิดชอบในเนื้อข่าวที่นำเสนอ ส่วนในกรณีที่จำเลยได้ลงข่าวการแถลงข่าวของโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้ร้องขอแต่อย่างใด เพราะโจทก์แถลงตอบโต้ข่าวเอง จำเลยที่ 5 จึงต้องรับผิดชอบในฐานผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ส่วนที่ขอให้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 10 วันนั้น เห็นว่าหนังสือพิมพ์ของจำเลยเป็นเพียงหนังสือพิมพ์เฉพาะกลุ่ม และไม่มีบทกฎหมายใดที่จะให้เพิกถอนการเป็นบรรณาธิการ จึงยังไม่ได้ความว่ากระทำแบบนั้น จะบังคับใช้กับจำเลยที่ 5 ได้ 
ดังนั้น จำเลยที่ 5 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และ พ.ร.บ. การพิมพ์ มาตรา 48 ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับเป็นเงินจำนวน 100,000.- อย่างไรก็ตามจำเลยยังไม่เคยต้องโทษทางอาญามาก่อน รอลงอาญาจำเลยเป็นเวลา ปี พร้อมทั้งให้ชำระค่าปรับ อีกทั้งให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ข่าวสด ทีวีพูล  และมายาแชนเนล โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด




credit website : gmember.com; siamdara.com